เป็นนายหน้าขายทรัพย์มือใหม่จะใช้สัญญาเปิดหรือสัญญาปิดดี

เรื่องน่าปวดหัวของนายหน้ามือใหม่คงหนีไม่พ้นเรื่องการทำสัญญานายหน้า แม้จะเคยแนะนำให้ทำสัญญาแบบปิดไป บางคนก็ยังคงกังวลใจว่าจะไม่ได้งานหรือไม่มีใครยอมให้เป็นนายหน้าขายทรัพย์ให้ งั้นวันนี้เรามาทบทวนกันใหม่ดีกว่า จะได้รู้ว่าสัญญานายหน้าแบบเปิดและแบบปิดมันเป็นยังไง แล้วควรใช้สัญญาแบบไหนเราถึงจะไม่ถูกโกงโดยชอบธรรม

สัญญาตัวแรกที่จะพูดถึงก็คือสัญญาเปิด หรือที่เรียกกันว่า Open Listing ลักษณะเด่นของสัญญาแบบนี้ก็คือใครก็มีสิทธิ์ขายทรัพย์นั้นได้หากเจ้าของทรัพย์มอบหมายให้เป็นนายหน้าขายทรัพย์นั้นแล้ว หากนายหน้าคนไหนสามารถชี้ช่องหรือบอกต่อจนทำให้เกิดสัญญาซื้อขายกัน นายหน้าคนนั้นก็มีสิทธิ์ที่จะได้รับบำเหน็จหรือส่วนแบ่งจากยอดขายไป ถ้าเจ้าของทรัพย์เป็นผู้ขายเองก็จะไม่มีใครได้ค่านายหน้าเลย ที่สำคัญสัญญาแบบเปิดจะไม่มีการกำหนดระยะเวลาในการขายทรัพย์ พูดง่าย ๆ ก็คือใครขายได้เมื่อไหร่ก็เอาค่าเหนื่อยไปเลย

ส่วนมากแล้วนายหน้าอสังหาริมทรัพย์มักจะไม่ทำสัญญาเปิดกัน เพราะว่าเป็นการเปิดโอกาสให้นายหน้าคนอื่นเข้ามาแย่งส่วนแบ่งจากยอดขายไป หรือแม้กระทั่งถูกตัดหน้า จึงไม่คุ้มค่าที่จะทุ่มเท ยิ่งนายหน้าที่มีการให้บริการแบบครบวงจรแทบจะไม่มีใครเลยที่ทำสัญญาแบบนี้กัน

สัญญาต่อไปก็คือสัญญาปิด หรือที่เรียกกันว่า Exclusive Right-to-Sale Listing เป็นสัญญาที่เจ้าของทรัพย์มอบหมายให้นายหน้าคนใดคนหนึ่งเป็นผู้จัดการแต่เพียงผู้เดียว งานนี้แม้แต่เจ้าของทรัพย์ก็ไม่มีสิทธิ์มายุ่งเกี่ยวกับการชี้ช่อง ถึงแม้ว่าการขายนั้นผู้ซื้อจะมาจากเจ้าของทรัพย์เอง หรือมีคนแนะนำมา ถ้าเกิดกรณีแบบนี้ขึ้นในระหว่างที่สัญญานายหน้ายังมีผล ค่าบำเหน็จหรือค่านายหน้าก็จะตกเป็นของนายหน้าที่ทำสัญญาแต่เพียงผู้เดียว ส่วนมากแล้วสัญญาปิดจะมีกำหนดระยะเวลาในการดำเนินการที่แน่นอนชัดเจน เช่น 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี อันนี้แล้วแต่เราจะตกลงกับเจ้าของทรัพย์ว่าอย่างไร

ถ้าถามว่าแบบไหนดีกว่ากันอันนี้ต้องลองดู แต่ถ้าให้แนะนำมือใหม่ทั้งหลาย ก็ยังยืนยันคำเดิมว่าควรจะทำสัญญาปิด ทีนี้ถ้าเกิดไม่มั่นใจว่าเราจะขายได้หรือไม่ ก็ให้ดูระยะเวลาที่เราคาดว่าน่าจะขายได้ แล้วเจรจาต่อรองกับเจ้าของทรัพย์ดู ของแบบนี้ไม่ลองไม่รู้ ข้อดีของสัญญาปิดก็คือถ้าเราสามารถทำได้ตามกำหนดระยะเวลา เครดิตเราก็จะมาแบบก้าวกระโดดแน่นอน